ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่จะซื้อทอง? วิเคราะห์ราคาทองคำ สรุปปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ

ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่จะซื้อทอง? วิเคราะห์ราคาทองคำ สรุปปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ

ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่จะซื้อทอง? วิเคราะห์ราคาทองคำ สรุปปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ

ถ้าคุณสงสัยว่าควรซื้อทองเก็บไว้ดีไหม? บทความนี้จะวิเคราะห์ราคาทองคำ สรุปปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ ไปจนถึงข้อดี-ข้อเสียและวิธีเริ่มต้นลงทุนในทองคำ

บทคัดย่อ 

ทั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 และสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้ “ทองคำ” กลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าจับตามอง เมื่อวิเคราะห์ราคาทองจะเห็นได้เลยว่าทั้งภาวะเงินเฟ้อ นโยบายการเงิน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และความต้องการซื้อขายทอง ส่งผลให้ราคาทองมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับสินทรัพย์อื่นๆ อย่างหุ้นหรือกองทุน เพราะนอกจากจะสามารถสร้างผลกำไรแล้ว ยังช่วยกระจายความเสี่ยงในช่วงวิกฤตด้วย  ซึ่ง​​วิธีการลงทุนในทองคำนั้นสามารถทำได้ทั้งซื้อทองเก็งกําไร ลงทุนในกองทุนหรือ ETF และเทรดทองคำออนไลน์ 

บทความนี้จะวิเคราะห์ราคาทองคำ สรุปปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ ไปจนถึงข้อดี-ข้อเสียและวิธีเริ่มต้นลงทุนในทองคำ ถ้าคุณสงสัยว่าควรซื้อทองเก็บไว้ดีไหม? เข้ามาหาคำตอบได้ในบทความเลย! 

Key Takeaways

  • วิเคราะห์ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อตามมา อีกทั้งนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และความต้องการในตลาดที่ยังส่งผลกระทบต่อราคาทองคำด้วย
  • ข้อดีของการซื้อทองนอกจากจะช่วยสร้างผลกำไร และกระจายความเสี่ยงพอร์ตลงทุนแล้ว ยังเป็นทุนสำรองยามฉุกเฉินที่ดี เนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและเป็นที่ต้องการในตลาดอยู่เสมอ
  • ข้อควรระวังคือผลตอบแทนของทองคำไม่แน่นอน และให้ผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคาซื้อ-ขายเพียงอย่างเดียว ถ้าคุณซื้อทองคำแท่งจะมีค่าธรรมเนียมและต้นทุนในการเก็บรักษาด้วย 
  • วิธีการซื้อทองสามารถทำได้ 3 วิธีได้แก่ ซื้อทองเก็งกําไรแบบกายภาพ ลงทุนในกองทุนหรือ ETF และเทรดทองคำในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ 
  • คุณควรลงทุนในทองคำไม่เกิน 20% ของเงินทุนทั้งหมด นอกจากนี้กลยุทธ์การลงทุนในทองคำส่วนใหญ่จะเป็นระยะกลางถึงยาว ยกเว้นการเทรดทองคำที่จะสามารถทำได้ทั้งช่วงขาขึ้นและขาลง 

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งโลก ทำให้นักลงทุนต่างพากันปรับกลยุทธ์การลงทุนใหม่เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทน ซึ่งหนึ่งในสินทรัพย์ที่น่าลงทุน โดยสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีมาตั้งแต่ในอดีต และเป็นที่รู้จักอย่างดีของนักลงทุน นั่นก็คือ “ทองคำ” 

ทองคำ คือ สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) อันดับแรกที่นักลงทุนนึกถึง เนื่องจากเป็นแร่หายากจึงมีมูลค่าสูง อีกทั้งยังเป็นที่ต้องการอยู่เสมอไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด โดยเฉพาะช่วงวิกฤตการเงินทองคำเปรียบได้กับเป็น ‘หลุมหลบภัย’ การลงทุน บทความนี้เราจะมาวิเคราะห์ราคาทองคำ รวมถึงสรุปปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ ถ้าคุณกำลังสงสัยว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่จะซื้อทองหรือไม่ อ่านต่อเลย! 

วิเคราะห์ราคาทอง

คาดการณ์ราคาทองคำวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นและอาจจะสูงขึ้นต่อไปจนทำจุดสูงสุดใหม่เร็วๆ นี้ เนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรประเทศรัสเซียได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมด้านพลังงานและเศรษฐกิจทั่วโลก อีกทั้งสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจหลายรายการที่ออกมาดี รวมถึงภาวะเงินเฟ้อก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งด้วยเช่นกัน 

จากการวิเคราะห์ราคาทอง จะเห็นได้เลยว่าราคาทองคำไม่ได้ขึ้นจากปัจจัยพื้นฐาน แต่ปัจจัยหลักคือปัญหาด้านการเมืองระหว่างรัสเซียและยูเครนกลายเป็นแรงหนุนทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมีความต้องการสูงขึ้น ดังนั้นโดยสรุปในระยะสั้นราคาทองคำมีแนวโน้มผันผวนตามสถานการณ์ในยูเครน อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์คลี่คลายราคาทองคำก็อาจจะลดลงตาม 

อย่างไรก็ตามการคาดการณ์ราคาทองคำควรพิจารณาจากทั้งสัญญาณระยะยาว จากการวิเคราะห์ราคาทองย้อนหลังในอดีตไป 7-10 ปี สัญญาณระยะปานกลางในรายไตรมาส และสัญญาณระยะสั้นแบบรายวัน เปรียบเทียบกับราคาสินทรัพย์อื่นๆ ประกอบกัน 

สรุปปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำในอนาคต 2565

แนวโน้มราคาทองคําในอนาคต 2565 เป็นอย่างไร? สังเกตได้เลยว่าในปีที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ โรคระบาด สงคราม หรือเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนใดๆ ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น สำหรับปีนี้ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำสามารถสรุปได้ 4 ข้อดังนี้ 

1. เงินเฟ้อ 

ภาวะเงินเฟ้อ คือ ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือในอีกแง่คือค่าของเงินลดลงนั่นเอง ซึ่งเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้นโดยตรง นำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อที่ลุกลามอย่างต่อเนื่อง 

เนื่องจากทองคำสามารถป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อได้ดี นักลงทุนจึงเปลี่ยนการถือเงินสดเป็นทองคำเพื่อปกป้องมูลค่าทรัพย์สิน ดังนั้นไม่น่าแปลกใจที่ราคาทองคำจะสูงขึ้นในช่วงเงินเฟ้อ และราคาก็จะลดลงเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง 

2. นโยบายการเงินและดอกเบี้ย

นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีมาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เม็ดเงินในตลาดค่อยๆ ลดลง เมื่อวิเคราะห์ราคาทองคำคาดว่าจะได้รับผลกระทบในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป 

นอกจากนี้ธนาคารประเทศต่างๆ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยยังมีนโยบายเข้าซื้อทองคำเพิ่ม เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่นกันกับธนาคารกลางรัสเซียที่กลับมาซื้อทองคำอีกครั้งหลังจากหยุดไป 2 ปีเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตร ดังนั้นราคาทองคำจึงมีสัญญาณที่ดีขึ้นเรื่อยๆ 

3. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ 

ราคาทองคำนั้นมีการซื้อขายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่จะมีความสัมพันธ์ตรงกันข้ามกับค่าเงินดอลลาร์ นั่นหมายความว่าถ้าค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลสำคัญของโลก ราคาทองคำจึงเพิ่มขึ้น 

4. ความต้องการซื้อขายทองคำ 

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าความวิตกในสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น นักลงทุนจำนวนมากเลือกใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในการปรับสมดุลพอร์ตลงทุน อีกทั้งเศรษฐกิจของจีนและอินเดียซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าทองคำเป็นอันดับต้นๆ ของโลกกำลังฟื้นตัว ส่งผลให้ 

ความต้องการทองคำของทั้งสองประเทศนั้นเพิ่มขึ้น 

ซื้อทองเก็บไว้ดีไหม?  

หลายๆ คนอาจจะตั้งคำถามว่าตอนนี้ควรซื้อทองเก็บไว้ดีไหม สิ่งสำคัญคือคุณควรพิจารณาจากหลายๆ ด้าน ในส่วนนี้เราจะเปรียบเทียบเหตุผลที่ทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน รวมถึงข้อควรระวังในการซื้อทองคำด้วย ไปดูกันเลย 

ข้อดีของการซื้อทอง  

1. เป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ช่วยสร้างผลกำไร 

นอกจากทองคำจะเป็นตัวแทนในการสะสมความมั่งคั่งแล้ว ทองคำยังเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่ใช้ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สุด เนื่องจากทองคำมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับสินทรัพย์ชนิดอื่นๆ เช่น หุ้น พันธบัตร นั่นหมายความว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนอื่นๆ จะไม่ส่งกระทบกับราคาทองคำ ทำให้นักลงทุนยังมีโอกาสในการเพิ่มผลกำไรได้ 

2. ป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ 

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าตั้งแต่ในอดีตทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงที่ดีต่อภาวะเงินเฟ้อ 

เมื่อวิเคราะห์ราคาทองย้อนหลัง 50 ปีที่ผ่านมา ในช่วงสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนมีการบันทึกว่าราคาทองคำยังคงมีมูลค่าสูงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น และในขณะเดียวกันก็รับแรงกระแทกทางเศรษฐกิจได้ดีกว่าด้วย 

3. เป็นการสำรองเงินในยามฉุกเฉิน 

ในสภาวะเงินฝืดซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ราคาสินค้าลดลงเนื่องจากกิจกรรมทางธุรกิจชะลอตัวและเศรษฐกิจมีภาระหนี้มากเกินไป หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาฉุกเฉินต่างๆ ทองคำก็สามารถทำหน้าที่เป็นเบาะรองรับวิกฤตได้อย่างง่ายดาย ทำให้กำลังซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้คนเลือกที่จะสะสมเงินสด และสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในการเก็บเงินสดก็คือทองคำนั่นเอง

4. มีสภาพคล่องสูง 

อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทองคำได้รับความนิยมอยู่เสมอคือ ทองคำสามารถแปลงเป็นเงินสดได้เร็วโดยที่ไม่กระทบกับราคานัก นอกจากนี้ยังมีตลาดทองคำขนาดใหญ่รองรับและสามารถหาผู้ซื้อได้ง่าย อีกทั้งหลายๆ ประเทศทองคำเชื่อมโยงกับวัฒนธรรม อย่างในประเทศจีนทองคำแท่งนั้นเป็นรูปแบบการออมเงินแบบดั้งเดิม ความต้องการทองคำที่คงที่ไม่ว่าจะในสถานะการณ์ใด จึงทำให้ทองคำยิ่งมีสภาพคล่องสูง 

ข้อเสียในการซื้อทอง 

1. ผลตอบแทนของทองคำไม่แน่นอน และทองคำให้ผลตอบแทนเพียงทางเดียวจากส่วนต่างของราคาซื้อกับราคาขาย แตกต่างจากการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ อย่างการฝากเงิน หุ้น หรือพันธบัตรที่ได้ดอกเบี้ยหรือเงินปันผล อีกทั้งเมื่อวิเคราะห์ราคาทองจะเห็นได้เลยว่าค่อนข้างคงที่ จึงทำกำไรจากส่วนต่างของราคาทองคำในระยะสั้นได้ยาก 

2. หากคุณซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณจากร้านไหนก็ต้องขายร้านนั้น ไม่เช่นนั้นจะมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเก็บค่าธรรมเนียมในรูปแบบของค่าบล็อกหรือค่ากำเหน็จด้วยสำหรับทองรูปพรรณด้วย 

3. มีต้นทุนในการเก็บรักษาทองคำ ไม่ว่าจะต้องซื้อตู้เซฟหรือฝากทองไว้กับสถานที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามปัจจุบันร้านทองจำนวนมากให้บริการเก็บรักษาทองคำโดยไม่คิดค่าบริการ จึงช่วยลดต้นทุนข้อนี้ได้ 

เริ่มต้นการลงทุนทองคำอย่างไร? 

หลังจากเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียแล้วว่าคุณควรซื้อทองเก็บไว้ดีไหม ถ้าคุณตัดสินใจที่จะลงทุนในทองคำ เรามาดูขั้นตอนกันว่าควรจะเริ่มต้นลงทุนอย่างไร ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 5 ขั้นตอนดังนี้ 

ขั้นตอนที่ 1 เลือกวิธีการลงทุนในทองคำ 

หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าการลงทุนในทองคำสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งลงทุนทองคำแบบกายภาพ กองทุนทองคำหรือ ETF และเทรดทองคำในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรายละเอียดของแต่ละวิธีมีดังนี้ 

1. ลงทุนทองคำแบบกายภาพ 

วิธีแรกเป็นการซื้อทองเก็งกําไร ซึ่งการลงทุนในทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนทั่วไป สามารถจับต้องได้และเข้าถึงง่าย มีหลายช่องทางให้เลือกซื้อทั้งผ่านหน้าร้านและทางออนไลน์ อย่างไรก็ตามคุณควรเลือกร้านทองหรือผู้จำหน่ายที่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันการซื้อทองปลอม 

2. กองทุนทองคำหรือ ETF 

การลงทุนในกองทุนรวมและ ETF ทองคำนั้นทำให้นักลงทุนสามารถเข้าสู่ตลาดทองคำที่มีสภาพคล่องสูงกว่าและใช้ต้นทุนต่ำกว่าได้ อีกทั้ง ETF นั้นยังสามารถซื้อและขายได้เหมือนหุ้น ข้อดีของวิธีลงทุนแบบนี้คือนักลงทุนสามารถลงทุนในทองคำได้โดยไม่มีต้นทุนในการเก็บรักษา แม้จะมีค่าธรรมเนียมกองทุนแต่ก็ถือว่าต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ และคุณควรรู้ว่าการลงทุนในกองทุนจะไม่สามารถแลกเปลี่ยนหน่วยลงทุนเป็นทองคำแท่งได้ 

3. เทรดทองคำในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ 

วิธีลงทุนในทองแบบนี้จะสร้างผลกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ซึ่งสามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นช่วงขาขึ้นหรือขาลง โดยที่นักลงทุนไม่จำเป็นต้องถือครองเป็นเจ้าของทองคำเอง ดังนั้นจึงมีความสะดวกและปลอดภัย สามารถเทรดทองคำออนไลน์ที่ไหนก็ได้ แต่อาจจะมีค่าธรรมเนียมขึ้นกับโบรกเกอร์ที่เลือก

ขั้นตอนที่ 2 ตั้งเป้าหมายและเตรียมพร้อมเงินลงทุน 

ขั้นตอนนี้คือการตั้งเป้าหมายในการลงทุนทองคำ คุณสามารถซื้อทองเก็งกําไร รักษาความมั่งคั่ง กระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน หรือเพื่อเป็นสินทรัพย์สำรองในยามฉุกเฉินก็ได้เช่นกัน ในขณะเดียวกันคุณควรเตรียมพร้อมเงินลงทุนด้วย แนะนำตั้งเป้าหมายลงทุนในทองคำไม่เกิน 20% ของเงินทุนทั้งหมด วิธีการนี้จะช่วยให้คุณสามารถกระจายการลงทุนของคุณโดยไม่เสี่ยงกับเงินทุนของคุณมากจนเกินไป 

ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาข้อมูลและเลือกกลยุทธ์การลงทุน

ศึกษาข้อมูลอย่างเช่นปัจจัยการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ กลยุทธ์การทำกำไรแบบต่างๆ และติดตามราคาทองคำอย่างสม่ำเสมอเพื่อหาจังหวะเข้าซื้อ 

กลยุทธ์การลงทุนในทองคำส่วนใหญ่จะเป็นระยะกลางถึงยาว เนื่องจากทองคำมีค่าความผันผวนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ชนิดอื่น และเมื่อพิจารณาผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำย้อนหลัง 20 ปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 9% ต่อปี ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ดังนั้นคุณสามารถเลือกลงทุนทองคำแบบ Dollar Cost Averaging (DCA) เพื่อเป็นการเฉลี่ยเงินลงทุนและสร้างวินัยการออมเงินด้วย 

ขั้นตอนที่ 4 เลือกผู้จำหน่ายหรือโบรกเกอร์

ถ้าคุณต้องการซื้อทองเก็งกําไรแบบกายภาพ คุณควรเลือกร้านทองหรือผู้จำหน่ายทองที่ได้มาตรฐาน มีใบรับประกัน และเป็นสมาชิกของสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย และหากซื้อทองผ่านช่องทางออนไลน์ ให้พิจารณาประวัติการขาย ชื่อเสียงของร้าน รวมถึงตรวจสอบว่าทองที่นำมาขายนั้นมาจากแหล่งใดด้วย 

ส่วนการเทรดทองคำนั้นต้องดำเนินการผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์ที่ควรเลือกนั้นต้องมีความโปร่งใสในการแสดงค่าธรรมเนียมทั้งที่เกี่ยวและไม่เกี่ยวกับการเทรด นอกจากนี้ควรมีการจดทะเบียนอยู่กำกับดูแลโดยหน่วยทางการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ ส่วนการให้บริการควรมีสินทรัพย์ที่หลากหลายประเภท เทรดดิ้งแพลตฟอร์มใช้งานได้ง่าย มีเครื่องมือการเทรดรองรับครบถ้วน อีกทั้งควรมีฝ่ายดูแลลูกค้าที่เป็นมืออาชีพ รองรับภาษาที่คุณใช้ 

ขั้นตอนที่ 5 เริ่มลงทุน 

เมื่อคุณเลือกผู้จำหน่ายทองคำหรือโบรกเกอร์เทรดทองแล้วก็สามารถลงทุนในทองคำตามวิธีการและกลยุทธ์ของคุณได้เลย อีกสิ่งที่คุณควรทำคือการทดสอบและปรับกลยุทธ์การลงทุนของคุณอยู่เสมอ เพราะตลาดทองคำนั้นมีความผันผวน 

ซื้อขายและลงทุนในทองคำด้วย MiTrade

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าการเทรดทองคำต้องดำเนินการผ่านโบรกเกอร์ ซึ่ง  Mitrade เป็น โบรกเกอร์ออนไลน์สัญชาติออสเตรเลียที่มีความน่าเชื่อถือ ก่อตั้งเมื่อปี 2011 ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการมากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก Mitrade ให้บริการสินทรัพย์มากกว่า 300 รายการรวมถึงทองคำด้วย อีกทั้งยังให้บริการวิเคราะห์ราคาทองซึ่งเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดทองคำ 

7 เหตุผลที่คุณควรเทรดทองออนไลน์กับ Mitrade 

  1. มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ เนื่องจากโบรกเกอร์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยหน่วยงาน ASIC ของออสเตรเลีย, CIMA ของหมู่เกาะเคย์แมน และ FSC ของมอริเชียส นอกจากนี้ยังมีมาตรการแยกเงินทุนของลูกค้าจากของโบรกเกอร์ 
  2. ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ค่าสเปรดในการเทรดต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียมค้างคืน รวมถึงไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการฝากถอนด้วย 
  3. สามารถใช้เลเวอเรจในการเทรด มีความยืดหยุ่น สามารถปรับได้เป็น 1, 2, 5, หรือ 10 เท่า และเลเวอเรจสูงสุดคือ 1:200 จึงช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของนักลงทุน 
  4. ปริมาณในการซื้อขายต่ำ โดยเริ่มต้นเพียง 0.01 lots 
  5. แพลตฟอร์มการเทรดใช้งานง่าย มีเครื่องมือเทรดขั้นสูงมากมาย รองรับทั้งเวอร์ชั่นเว็บเทรดเดอร์และแอพพลิเคชั่นมือถือ พร้อมด้วยระบบควบคุมความเสี่ยง มีฟังก์ชั่น stop loss หรือจำกัดการเทรดให้บริการ 
  6. ฝ่ายบริการลูกค้าเป็นมืออาชีพ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงวันจันทร์ถึงศุกร์ รองรับการใช้งานในประเทศไทย สามารถฝากถอนเงินผ่านธนาคารไทยได้ง่าย 
  7. มีแหล่งความรู้สนับสนุน เทรดเดอร์สามารถเข้าดูบทวิเคราะห์จาก Mitrade ได้โดยตรง รวมถึงบทความให้ความรู้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ 

สรุป 

ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่แตกต่างจากธนบัตร กองทุน หุ้น หรือสินทรัพย์อื่นๆ เนื่องจากเป็นแร่หายากและเป็นที่ต้องการอยู่เสมอ จีงไม่น่าแปลกใจที่ทองคำจะมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ นักลงทุนหลายคนตั้งคำถามว่าควรซื้อทองเก็บไว้ดีไหม สิ่งสำคัญคือควรพิจารณาข้อมูลในหลายๆ ด้านและประเมินจากเป้าหมายการลงทุนของคุณ เพราะนักลงทุนแต่ละคนลงทุนในทองคำด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มความมั่งคั่ง กระจายความเสี่ยง หรือใช้เป็นทรัพย์สินสำรองในยามฉุกเฉิน 

เมื่อวิเคราะห์ราคาทองพบว่าแนวโน้มราคาทองคําในอนาคต 2565 สูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งโลก ทองคำจึงเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ช่วยสร้างผลตอบแทนในช่วงเวลาวิกฤตได้ ถ้าคุณสนใจลงทุนในทองคำ คุณสามารถเริ่มต้นได้โดยเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะกับคุณ ศึกษาข้อมูลรวมถึงกลยุทธ์การลงทุน และเลือกผู้จำหน่ายหรือโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ

References: 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *